Categories
Find My iPhone iPhone

ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองด้วย Find My iPhone ภาค 5

ภาคจบแห่งมหากาพย์ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองก็ได้ฤกษ์คลอดแล้วในที่สุดครับ ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขอเล่าอะไรสั้นๆ ก่อนนะครับ

ก่อนอื่นคงต้องขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจในการติดตาม iPhone ของผมนี้ ถึงแม้ Comment จะน้อย แต่จากการที่ได้พูดคุยกับหลายๆ ท่านในช่วงหลายเดือนมานี้พบว่ามีคนได้อ่านมากพอสมควร ที่ผมตลกที่สุดคือมีรุ่นน้องที่ผมรู้จักคนนึง รู้จักมาได้ซักพักแล้วล่ะ เจอกันบ่อยพอประมาณ ทุกทีที่เจอกันก็คุยเล่นกันตามภาษาไร้สาระอยู่เสมอ แต่มาวันนึงเค้าก็ถามผมโดยที่เหมือนจะไม่อยากถามว่า “พี่แบงค์ๆ เมื่อไหร่จะเขียนภาค 5 ต่อ ว่าจะไม่ถามแล้ว แต่อดไม่ได้” พอผมได้ยินคำถามก็ผมถึงกับหัวเราะปนดีใจว่าเค้าอ่านเรื่องราวของเราด้วยเหรอนี่ พอได้สอบถามเพิ่มก็ได้ความว่าเขาอ่านมานานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเรา เอิ๊กๆ เอาล่ะเริ่มกันเลยดีกว่า

หลังจากที่ผมได้รับโทรศัพท์จากทางร้าน B และได้ทราบถึงตัวคนที่ขโมย iPhone ไปนั้นว่าเป็นใคร ร้าน B ก็ถามผมต่อว่าพอจะรู้มั๊ยว่าเด็กคนที่ขโมยไปนั้นพักที่ไหน เขาอยากจะไปคุยกับเด็กเพื่อที่จะได้รู้ว่าควรทำอย่างกันต่อไปดี ผมก็บอกว่าผมรู้ เพราะว่าเคยไปที่พักของเด็กคนนั้นมาแล้ว ร้าน B จึงขอนัดพบผม เพื่อให้ผมนำทางไป โดยตอนแรกจะนัดเย็นวันที่โทรมาเลยด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากผมติดธุระ เลยขอนัดเป็นอีก 3 วันถัดมา เวลา 14.00 แทน

3 วันผ่านไป เป็นวันที่ 17 กันยายน 2552 ผมก็ได้ติดต่อกับร้าน B ว่าขอนัดพบที่ปั๊มน้ำมันแห่งนึงในบริเวณใกล้กับที่พักของเด็กที่ขโมยไป (บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นผมก็กลัวเหมือนกันว่านี่เป็นแผนการอะไรซักอย่างรึเปล่า ก็เลยพยายามนัดในที่ที่มีคนหน่อย) พอใกล้ถึงเวลานัด ทางร้าน B และญาติที่เป็นตำรวจ (ยาวเกิ๊น ขอเรียกสั้นๆ ว่า จ่าอ้วน ละกันนะครับ) ก็ไปถึงสถานที่นัดพบก่อนผมพอสมควร (ผมตั้งใจไปสาย เพื่อจะได้ไม่เป็นเป้านิ่ง ไม่รู้คิดมากไปป่าวตรู)

ผมไปถึงสายประมาณครึ่งชั่วโมงได้ พอไปถึงก็คุยกันอยู่แป๊บนึง ผมก็เริ่มเบาใจว่าคงไม่ใช่แผนการหลอกอะไรผม เพราะเค้ามีกระดาษที่พิมพ์รูปถ่ายมาด้วย ผมจึงอุ่นใจ และนำทางต่อไปยังที่พักของเด็กที่ขโมยไป

ขับจากปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดนัดพบไม่ถึง 3 นาที ก็ถึงจุดหมายของเรา ผมว่าถึงตรงนี้คงมีหลายคนเดาถูกแน่นอนว่าคือที่ไหน สถานที่จุดหมายที่เป็นที่พักของเด็กที่ขโมยไปนั้น ก็คือหอพักของเพื่อนของเพื่อนที่น้องชายผมไปนอนค้างเมื่อคืนที่ iPhone หายนั่นเอง!!

หลังจากจอดรถกันเรียบร้อย จ่าอ้วนก็ให้ผมโทรติดต่อกับคุณพี่สาวที่เป็นเจ้าของห้องทันที โดยยังไม่ให้ผมบอกอะไรมาก ให้บอกแค่ว่าอยากมาคุยด้วยเฉยๆ ไม่ต้องบอกว่ามีตำรวจมา พอนัดแนะกันเสร็จ ผมก็ทำการโทรศัพท์ไปหาคุณพี่สาวเจ้าของห้องทันที รอซักพักเธอก็รับสายขึ้นมาด้วยความงงว่า ใครโทรหาตูฟะ ผมจึงท้าวความอยู่ซักแป๊บ เธอก็จำได้ พร้อมกับน้ำเสียงเธอที่เปลี่ยนไปทันที ผมอธิบายว่าเนื่องจากมีหลักฐานเพิ่มเติม เลยอยากมาคุยขอข้อมูลเพิ่ม เธอก็อ้างว่าตอนนี้มานวดอยู่ข้างนอก เดี๋ยวไว้ตอนเย็นๆ จะกลับไปคุยด้วย (น้ำเสียงแบบไม่สะดวกใจเท่าไหร่) ผมก็ตกลงตามที่เธอว่า

หลังจากวางสาย ผม จ่าอ้วน และร้าน B จึงหาร้านอาหารแถวนั้นนั่งกินโค้กไปพลางๆ คุยกันพลาง ทำความรู้จักกันมากขึ้น หลังจากที่คุยกันไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีโทรศัพท์จากคุณพี่สาวเข้ามาหาผม ผมก็รีบรับสายทันที เธอก็ถามผมด้วยน้ำเสียงกลัวๆ ว่ามากันกี่คน ผมก็ตอบไปว่า 3 เธอก็ถามต่อว่ามีตำรวจมาด้วยรึเปล่า ผมก็บอกไปตามตรงว่ามี แต่ไม่ได้มาในนามตำรวจ เค้าแค่อยากมาคุยด้วยเฉยๆ แล้วก็ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน ผมก็บอกว่าอยู่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามนี่แล จะลงมาคุยกันที่นี่มั๊ย เธอก็บอกว่าให้ขึ้นไปที่ห้องดีกว่า เค้าไม่อยากให้ใครเห็นหรือได้ยินที่คุยกัน พร้อมกับอนุญาตให้ผมและคณะขึ้นไปที่ห้องได้แล้วก็วางสายไป

ผม จ่าอ้วน และร้าน B จึงรีบเช็คบิล แล้วก็ขึ้นไปหาที่ห้องทันที แต่ก่อนที่จะขึ้นไปได้ก็ติดระบบคีย์การ์ดอยู่ด้านล่างหอ ไม่สามารถเข้าไปในหอได้ สรุปพวกผม 3 คน (เป็นตำรวจด้วย 1 คนนะ) ต้องยืนรอจนมีคนออกจากหอ แล้วจึงรีบวิ่งไปจับประตูไม่ให้ปิด เพื่อที่จะแอบขึ้นไป (ฮา)

พอขึ้นไปถึงที่ห้องพัก ผมก็เคาะประตู ด้านในก็มีเสียงโวยวายเล็กน้อยก่อนที่ประตูจะเปิด พอเปิดเข้าไป เด็กผู้หญิงในห้องคนนึงก็ยกมือไหว้ร้าน B ทันที ผมก็งงว่ารู้จักกันหรืออย่างไร ปรากฎว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ก็คือคนเดียวกับที่นำเครื่อง iPhone ของน้องผมไปขายที่ร้าน B นั่นเอง

ในห้องขณะนั้นมีกันอยู่ 3 คน คือพี่สาวเจ้าของห้อง เด็กผู้หญิงคนนึง และก็น้องชายเจ้าของห้อง หรือเด็กคนที่ขโมยเครื่องไปนั่นเอง รวมกับผมอีก 3 คนเป็น 6 คน บรรยากาศในห้องขณะนั้นอึมครึมมากๆ พี่สาวเจ้าของห้องกำลังร้องไห้พร้อมกับดุด่าว่าน้องชายของตัวอยู่ด้วยความเสียใจ

ผม กับร้าน B ก็มอบหน้าที่ให้จ่าอ้วนเป็นคนคุย จ่าอ้วนก็พยายามสอนเด็กว่าสิ่งที่ทำนั้นมันไม่ดี ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (ต้องขออภ้ยส่วนตรงนี้ด้วย ผมจำได้แต่บริบทครับ จำไม่ได้ละเอียดว่าคุยอะไรบ้าง) โดยระหว่างที่สอนเด็ก พี่สาวก็พยายามจะตีน้องชาย พร้อมกับด่าอยู่เป็นระยะๆ จ่าอ้วนก็พยายามปลอดพี่สาวพร้อมกับสอนเด็กไปพร้อมๆ กัน นาทีนั้นผมสงสารผู้เป็นพี่สาวมาก โดยตั้งแต่เริ่มเข้าไปในห้องจนถึงตรงนี้ เด็กคนที่ขโมยไปนั้นยังไม่ยอมเปิดปากพูดเลยซักคำ จะมีปฏิกริยาก็แค่พยักหน้าอย่างเดียวเท่านั้น จ่าอ้วนจึงได้ถามถึงว่าที่ขโมยไปขายเนี่ย เอาเงินไปทำอะไร คำตอบที่ได้ก็คือเอาไปกินไปซื้อของให้แฟน (เด็กผู้หญิงในห้อง) หมดแล้ว ผมจึงถามเด็กผู้หญิงคนนั้นว่ารู้รึเปล่าว่าโทรศัพท์ที่เอาไปขายนั้นเป็นเครื่องที่ขโมยมา เด็กผู้หญิงก็บอกว่าไม่รู้ (เชื่อได้รึเปล่าก็ไม่รู้)

พอพี่สาวเริ่มเย็นลง พี่สาวก็เล่าว่าเค้าสงสัยมมาได้ซักพักแล้วว่าน้องเค้าเป็นคนขโมยไป เพราะหลังจากวันที่เกิดเรื่องนั้นไม่กี่วัน เค้าก็พบ iPhone case สีส้มอยู่ในห้องเค้า เค้าก็ถามน้องชายว่าไปได้มายังไง น้องเค้าก็บอกเค้าว่าเพื่อนมาลืมเอาไว้ และพอเล่าจบคุณพี่สาวก็ขอร้องผม และร้าน B ว่าอย่าเอาเรื่องน้องชายเค้าเลย เห็นแก่อนาคตของน้องเค้าด้วย ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวจะชดใช้ให้เอง ด้วยความสงสาร + ไม่อยากให้เรื่องมันยาว ผมและร้าน B จึงตกลงกันตามนั้น แต่ใจผมก็อยากจะให้โอกาสเด็กจริงๆ นะครับตอนนั้น ด้วยความเชื่อที่ว่า “ทุกคนเป็นคนดีเท่ากัน เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาและความเข้าใจที่ต่างกัน” หลังจากตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันกลับ โดยระหว่างขับรถกลับ คุณพี่สาวก็โทรมาขอร้องผมอีกรอบเรื่องน้องชายของเค้า ผมก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ โดยมีเงื่อนไขที่ว่า อย่าให้ผมรู้ว่าน้องคุณทำเรื่องแบบนี้อีก…

พอกลับถึงบ้าน ผมก็นึกถึงคุณปุ๊กได้ ไม่รู้ว่าเธอได้เงินคืนจากร้าน A รึยัง ผมจึงโทรไปสอบถาม และเล่าให้ฟังในสิ่งที่ผมผ่านมาวันนี้ เธอก็บอกว่าเธอได้รับเงินจากร้าน A เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ก็ทำเอาผมโล่งใจ และก็ทำให้เรื่องนี้จบลงแบบ Happy Ending ครับ ไม่มีใครต้องสูญเสียทรัพย์สินอะไร จะมีก็คงมีแต่ความรู้สึกของพี่สาวที่เสียไปกับน้องชายของเธอเอง

จบแล้วครับ สำหรับตามล่า iPhone สุดขอบเมือง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ภาคนี้อาจจะสั้นๆ ห้วนๆ เล็กน้อยนะครับ หวังว่าท่านผู้อ่านคงไม่ว่ากัน แล้วไว้ผมจะพยายามเขียนบทความดีๆ เป็นความรู้ใหม่ๆ มาฝากท่านผู้อ่านทุกคนนะครับ ติดตามอัพเดทได้ทาง Twitter ของผม @Bankja เช่นเคยครับ (ทวีตแบบมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง)

ทิ้งท้ายอีกนิดว่าในตอนแรกเรื่องนี้คงไม่ได้มาเล่าบอกต่อๆ กัน ถ้ามันไม่ใช่เพราะการได้เครื่องคืนด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย และผมอยากเสริมว่ากรณีของผมนั้นถือว่าเป็นโชคมากกว่าฝีมือนะครับ ฉะนั้นการดูแลรักษาเครื่องโทรศัพท์ของท่านไว้ให้ดี อย่าให้หายเป็นสิ่งสำคัญ และพึ่งพาได้มากที่สุดครับ

@Bankja

37 replies on “ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองด้วย Find My iPhone ภาค 5”

ตามมาตั้งนาน ตั้งแต่ blog เก่า จบซะที
หนุกดีครับ

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ 🙂 ขออภัยที่อัพเดทช้านะครับผม

ติดตามทุกภาคเลยครับ มีประโยชน์มาก ขอบคุณครับ

เหมือนได้อ่านหนังสือเลยนะครับเนี่ย
เขียนเก่งจริงๆ

iphone หายค่ะ
กำลังหาวิธีหาเครื่องอยู่ แล้วก็เจอ blog นี้
ดีใจจังเลยที่ได้อ่าน
แล้วก็ยินดีด้วยนะคะที่หาเครื่องเจอ

โดนขโมยเเหมือนกันค่ะ เมื่อวันที่ 5 สิงหา 2553 สถานที่พันธ์ทิพงามวงศ์วาน โดนล้วงกระเป๋าตอน 18.13น

เป็นเครื่อง iPhone 3Gs 32 GB เสียดายไที่ไม่ได้ลงโปรแกรมไว้
ร้องไห้เป็นวันๆ เครียดมากเพราะงาน Thesis ป.โท ทุกอย่างอยู่ที่ iPhone หมดเลยค่ะ

ป่านนี้คงเอาไปวางขายแล้ว จะตามหาก็คงหมดหวังเครียดมากๆ ใช้ทุกวัน พอหายไปชีวิตลำบากเลยค่ะ มารู้ว่ามีโปรแกรมนี้สามารถตามได้เครื่องก็หายไปเสียแล้ว

เด๋วนี้เลยขยายเดินพันธ์ทิพย์กับเดอะมอลงามฯเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องราวมาแชร์ให้อ่านกัน

อยากทราบว่าส่งข้อความเข้าไปหาเครื่องที่หายมันส่งไปด้วยวิธีไหนครับส่งไปที่หมายเลขเครื่องหรือเบอร์โทรครับ แล้วถ้าไม่ได้ใช้iphoneเหมือนกันจะสามารถส่งข้อความไปได้หรือป่าวถ้าได้ช่วยบอกวิธีส่งหน่อยครับ

ไม่ใช่ทั้งสองอันครับ มันจะส่งไปหาเครื่องผ่านทาง IP ครับ หรือถ้าเครื่องที่ตั้ง Find My iPhone ไว้ต่อเนตเมื่อไหร่ ถึงจะได้ข้อความครับผม และวิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกับ iPhone เท่านั้นครับ

สวัสดีค่ะ คุณแบงค์ พอดีเห็นว่าโพสเกี่ยวกับการตามหา iPhone เลย เข้ามาอ่าน เพราะ ตัวเองก็โดนขโมยเหมือนกัน แต่พอดีไม่ได้ลงสมัคร mobile me ไว้อ่ะค่ะ แล้วที่แย่ก็คือ ตามไปตามมา (บีบีก็โดนขโมยด้วย เลยตามจากพินบีบีแทนค่ะ) มันไปตันตรงที่ว่า โจรมันเอาไปขายที่ร้านขายของเก่า แล้วร้านขายของเก่าก็ขายออกไป คนที่มาขายเครื่องให้ที่ร้านขายของเก่ามันเป็นคนลาวอ่ะค่ะ แล้วชื่อของคนที่ร้านขายของเก่าขายให้ก็ชื่อ Tony อะไรไม่รู้ เลยไม่รู้จะตามต่อยังไง เราก็เลยลองแอดพินดูเรื่อยๆ ตอนนี้ก็มีคนใช้งานอยู่นะคะ แต่คุยยากมาก ยังไงก็อยากจะขอบคุณคุณแบงค์ที่มาโพสเรื่องราวดีๆ ให้อ่านค่ะ บทความนี้จะช่วยเป็นกำลังใจให้กับคนที่ของหาย และทำให้รู้ว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรมค่ะ 😀

ตอนนี้ iphone หายเหมือนกันค่ะ
เช็คได้ตลอดเลย แต่ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ
คือลองส่งข้อความไปแล้ว ก็ไม่ได้เมลล์ตอบรับว่า ข้อความได้ขึ้นไปหรือยัง
แต่ก็เช็คจุดได้ตลอด ตอนนี้เหมือนแบตจะหมดแล้วค่ะ เลยเช็คไม่ได้แล้ว

ยังไงช่วยด้วยนะคะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้วค่ะ

ไม่วาง ไม่่โชว์ ไม่อยู่ในกระเป๋าด้วย. แต่อยู่ที่มือมาตลอดเลย ขนาดชี้สิ่งของยังเอาiphone4ชี้เลยครับ อิอิ ไม่วาง ไม่โชว์เลย อิอิ บทความมีสาระมากเลยครับ จะไม่ประมาทครับโปร์แกรมอะไรนั่นก็ดีเยี่ยมด้วยคงต้องติดตั้งไว้บ้างล่ะครับ ต้องเสืยค่าบริการรายปีแพงป่ะครับ

เพิ่งจะมาได้ตามอ่าน เคยได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟังคร่าวๆ เหมือนกัน เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเรื่องของคุณแบงค์นี่เอง แต่ตอนนี้ได้อ่านเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดเลย ดีใจด้วยนะคะที่ได้เครื่องคืน โชคดีจังค่ะที่เจอคนอย่างคุณปุ๊ก

น้องสาวเคยเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าถือแล้วโดนกระชากไป ตำรวจก็ไม่สนใจบอกแค่ว่าเรื่องแบบนี้ตามยากให้ทำใจ เลยได้แต่ลงบันทึกประจำวันไว้ ตอนนี้คนที่บ้านเลยพกโทรศัทพ์ติดตัวกันตลอดไม่กล้าใส่ไว้ในกระเป๋าถือกันเลยค่ะ 555+

ขอบคุณที่ผ่านเข้ามาอ่านเรื่องยาวๆ อันไร้สาระของผมนะครับ 🙂

โทรศัพท์ของผมก็ใส่กระเป๋ากางเกงตลอดเช่นกัน กะว่าถ้ามันล้วงได้โดยที่ผมไม่รู้ตัวนี่ แสดงว่าคนขโมยมันต้องมีดีแน่ๆ เลย :p

โชคดีมากที่เพิ่งมีไอโฟน4 เพราะทำให้ได้เข้ามาอ่าน
แล้วก็โชคดีที่มาอ่านตอนเขาเขียนจบแล้ว 55555
ไม่ต้องรอ ไม่งั้นอยากรู้ตายเลย เนื้อเรื้องแหมมันสนุกจริงๆค่ะ 55+

เพิงหายสดๆเลยค่ะ ที่ออฟฟิศ เจ็บใจมาก cctve ก็ไม่มี แล้วพอมีวิธีไหนที่จะตามกลับมาได้มั้ยคะ จำได้ว่าที่เครื่องมี app Find My iPhone (icon เขียวๆกลมๆ) แต่ว่าไม่ได้เปิดใช้เลยเพราะไม่ทราบมาก่อน ยังงี้พอจะมีวิธีอื่นที่จะตามกลับมาได้มั้ยคะ ขอบคุณมากค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้เรื่องพวกนี้ประมาทไม่ได้จริงๆ ครับ

App Find My iPhone เอาไว้เพื่อดูตำแหน่งเครื่องเราอย่างเดียวนะครับ จะไม่ช่วยเรื่องการบอกว่าตำแหน่งเครื่องอยู่ที่ไหน

ถ้าจะต้องการรู้ว่าตำแหน่งเครื่องอยู่ไหนคือต้องตั้งค่า Find My iPhone ที่บริการ MobileMe ตรงหน้าแอตเมล์ครับ เมื่อตั้งเสร็จแล้วจึงจะใช้ App ที่เครื่องอื่นหรือเครื่องตัวเอง หาตำแหน่งเครื่องได้

แต่เนื่องจากมันหายไปแล้ว ทำตามที่ผมว่ามาคงไม่ทัน วิธีอื่นมีวิธีเดียวครับคือต้องให้ค่ายมือถือช่วยตามให้ ซึ่งปกติเค้าจะสามารถตรวจสอบได้ว่าเครื่อง IMEI นี้ใส่ซิมเบอร์อะไรอยู่ครับ ยังไงก็คงต้องขอความร่วมมือกับทางตำรวจเพื่อประสานงานต่อไปล่ะครับ ขอให้โชคดีนะครับ

สุดท้ายนี้อยากจะบอกตรงๆ ว่าให้ทำใจเผื่อไว้เลยก็ดีครับ เพราะคดีมือถือหายวันนึงเยอะมาก คงเป็นไปได้ยากที่เค้าจะตามให้เราครับ อย่างกรณีของผมนี่ถือว่าฟลุ๊คสุดยอดมากที่ได้คืนมาครับ

ขอบคุณมากค่ะ ไม่เป็นไรแค่เจ็บใจนิดหน่อย แต่ตอนนี้ลายนิ้วมือมันอยู่ที่สายชาร์ตแล้ว คงต้องให้ทาง secure ช่วยตรวจสอบเทียบกับผู้ต้องสงสัยอีกรอบค่ะ

เหตุณ์การเหมือนของผมเลยคับ เพียงแต่ว่าของผมไม่ได้เป็นไอโฟน เป็นโทรศัพท์ธรรมดาเนี่ยแหละคับเป็นของแฟนเก่าผม แต่ผมโชคดีส่งข้อความไปทิ้งไว้ในโทรศัพท์ว่า ถ้าใครพบโทรศัพท์เครื่องนี้ ช่วยติดต่อกลับด้วยโทรศัพท์ถูกโขมยไปแล้วทิ้งเบอร์ไว้จะมีรางวัลให้ โจรมันไม่ทันคิดได้เครื่องไปก็รีบเอาไปขายไม่ทันเห็นเมจเซจ นั่งคิดนอนคิดวิตกกังวลกันทั้งวัน สงสารแฟนมากๆ
ไปแจ้งความตำรวจบอกแจ้งเพื่ออะไร!! มันตามลำบากมากถ้าอย่างนั้นลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

เข้าใจความรู้สึกเลยของของเรามาโขมยของเราไปเซ็งมากๆ โชคดีทางร้านรับซื้อโทรกลับมา เลยคุยทางร้านว่าของผมจริงๆเครื่องหายให้ช่วยถ่ายรูปคนร้ายไว้ ทางร้านก็ำทำตามคับต้องขอบคุณทางร้านจริงๆ แล้วทางร้านจึงรับซื้อไป ผมไปถึงโอ้โหหใช่เลยไอหน้าแบบนี้คนนี้นี่เอง ก็เอาตำรวจไปจับมันเลยคับพร้อมหลักฐาน ตอนนั้นไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายทั้งๆที่เราไปซื้อเครื่องใหม่แล้วดันไปฟังผู้ใหญ่ว่าไม่ให้เอาเรื่อง ทั้งค่าน้ำมันรถวิ่งไปซื้อเครื่องใหม่ ทั้งค่าเสื่อมเวลาเอาไปขายต่อ ค่าจับให้คนร้ายมันเ้ป็นคนจ่าย สรุปเข้าเนื้ออีก – -” เลยคิดซะว่าซื้อประสบการณ์ไป

ถ้าใครเครื่องหายลองทำตามวิธีผมนะคับเผื่อจะโชคดีบ้าง ส่งเมจเซจเข้าไปบางทีโจรมันโง่คับ เด๋วเจ้าของร้านรับซื้อโทรศัพท์อาจจะโทรกลับมา ลองดูคับมาเป็นกำลังใจให้คับ…

ขอบคุณที่ช่วยแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ครับ เป็นอีกเคล็ดลับเบื้องต้นสำหรับการแก้ไขปัญหาเวลาเครื่องหายเลยทีเดียว ยินดีด้วยนะครับที่ได้เครื่องคืน 🙂

ได้ความรู้มากเลยค่ะ ตอนนี้ก็ใช้ I4 อยู่ค่ะ พอจะอธิบายวิธี ขั้นตอนการลง Find My IPhone มั้ยค่ะ ตอนนี้โหลดมาแล้ว แต่ไปต่อไม่เป็นค่ะ

การตั้งค่าใช้งาน Find My iPhone สามารถตั้งได้ฟรีเลยครับ โดยเข้าไปที่ Settings -> Mail, Contacts, Calendars แล้วก็แอตเมล์ใหม่เป็น MobileMe ครับ จากนั้นก็ใส่ Apple ID ที่เราเอาไว้ใช้โหลดแอพเพื่อทำการสมัคร Find My iPhone ผ่านหน้านี้ได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ Apple ยังเปิดให้สมัครฟรีอยู่รึเปล่า เพราะช่วงนี้เค้ากำลังพัฒนาระบบ iCloud อยู่ครับ ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะมีบริการให้ใช้งานได้มากกว่า Find My iPhone ฟรีด้วยครับ

สำหรับขั้นตอนโดยละเอียดผมขอแปะไว้ก่อนนะครับ ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีเวลาว่างจัดทำให้ครับ 🙂

หลังจากสมัครใช้งาน Find My iPhone เสร็จ ทีนี้ก็สามารถใช้ App Find My iPhone ที่โหลดมาเพื่อหาตำแหน่งเครื่องของตัวเองได้ทันทีครับ หรือจะหาผ่านเวปก็เข้าไปได้ที่ http://www.me.com เช่นกันครับ 🙂

เพิ่งหายวันนี้อ่ะ ไอโฟน 4 แจ้งความก็ไม่เห็นมีไรเกิดขึ้นเลย เศร้า หมดแรง…..

อ่า..ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ยังไงก็ขอให้ได้คืนมานะครับผม 🙂

ทดลองหาตำแหน่ง iPhone 4 โดยใช้ find my iPhone หาเจอครับ แต่พอผมจะเข้าไปปิด ที่ setting มันปิดไม่ได้เลย ช่วยหน่อยครับ 

ถ้าต้องการปิด ไม่ให้หาตำแหน่งเครื่องด้วย Find My iPhone เจอ ต้องเข้าไปที่ Settings -> Mail, Contacts, Calendars -> MobileMe แล้วข้างในจะมีส่วนของ Find My iPhone ให้ปิดครับ

พูได้คำเด่วว่าเอาไป5ดาว สนุกดีครับ
ปล.แต่ยังสงสัยอยู่ว่าคนร้ายเป็นใครในภาคแรกตอนเสริมที่มี A B C D ตอนคุยเดียว
คืออยากรู้ว่าตอนนั้นคนร้ายตอบยังไง

ทุกคนตอบเหมือนกันหมดครับ ไม่รู้ไม่เห็น รวมถึงคนร้ายด้วย

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ดีใจที่มีคนชอบ 🙂

ตามมาอ่านที่หลัง ทั้ง 5 ภาค ยิ่งกว่านิยายไทยทั้งชวนติดตาม ลุ้น เอาใจช่วยทั้งคุณธรรมน้ำมิตร มีพร้อม แง่คิดมีมากมาย ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล อีกครั้ง

รบกวนขอคำปรึกษาเรื่อง status find my iphone ค่ะเนื่องจาก iphone 4s หายตั้งแต่วันที่ 27 มีนา สัญญาณยังเขียวจนกระทั่งวันที่ 28 ประมาณบ่ายสามเครื่อง offline Find my iphone ไปแล้วค่ะ ถ้าดูด้วยเครื่อง iphone อื่นเป็น status สีแดง แต่ถ้าดูผ่าน web icloud เป็นสีเทา ขึ้นว่า offline น่ะค่ะ งงมากค่ะ ลอง delete apple account ใน cloud เครื่องเพื่อนแล้วใน icloud มันกลับขั้นเป็น no device แสดงว่าคนร้ายแค่ปิดเครื่องไม่ได้ลบ account หรือ restore เครื่องหรือเปล่าคะ ขอบคุณมากค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากปรึกษาทางโทรศัพท์ด้วยค่ะ

ถ้าขึ้น No device แสดงว่าคนร้ายลบ iCloud ที่ตั้งไว้ในเครื่องออกไปแล้วครับผม เสียใจด้วยนะครับ 🙁

แอบมาถามข้อมูลขอความรุ้ด้วยค่ะ
เครื่องหายเหมือนกันค่ะ แรก ๆ พอรู้ตัว fine my iphone แล้วระบบแจ้งว่าเครื่อง offline แต่ข้อมูลในเครื่องเยอะค่ะและมีสำคัญด้วยเลยทำ remote wipe ไว้จนถึงตอนนี้เวลาเข้าไปตรวจสอบก็ยังขึ้นสถานะ offline อยู่้เลยค่ะ แบบนี้ขอถาม 2 ข้อนะค่ะ
1. เครื่องยังไม่ถูกเปิดใช่ไหมค่ะ
2. หรือเครื่องถูกล้างไปแล้วโดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องค่ะ
รบกวนแชร์ประสบการณ์ด้วยนะค่ะอบคุณมากค่ะ

เป็นได้ทั้งสองกรณีเลยครับ แต่ถ้าคนที่เก็บได้เค้าพอมีความรู้ ก็อาจลบค่า Find My iPhone ออกก่อนที่จะถูก Wipe ได้เหมือนกันครับ ฉะนั้นก็อาจมีกรณีที่ข้อมูลรั่วไหลได้เช่นกันครับ

กรณีใช้ให้ปลอดภัย แนะนำให้ตั้ง Passcode เอาไว้ด้วยจะปลอดภัยขึ้นครับผม

เสียใจด้วยเรื่องเครื่องหายนะครับ 🙁

ทำใจแล้วหน่ะค่ะ เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าเครื่องหายก็เกือบ 1 ชม ผ่านไป ตอนนี้ก็ 😛 แล้วหน่ะค่ะ เพราะเศร้าไปเครื่องก็ไม่ได้คืน ปลง ละค่ะ

รบกวนสอบถามครับ
ถ้าเรื่องขึ้นว่า offline แสดงว่าข้อมูลในเครื่องถูกลบไปแล้วใช่ไหมครับ?
แล้วถ้าเครื่องถูกเปิดมาอีกครั้ง เราจะสามารถเห็นได้ใน find my iphone หรือไม่ครับ?
ตัว find my iphone ใช้จับกับอะไรอ่าครับ ใช่อีมี่ของเครื่องหรือว่าครับ

เรียบเรียงรายละเอียดไวดีมากครับ
แต่ละเอียดเกินไปนิดนึง

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.