Categories
AIS iPhone

แพ็คเกจ GPRS/EDGE ของ AIS เพื่อการใช้งาน iPhone ให้ได้ 101%

Q: ทำไมถึงบอกว่า iPhone 101% ?
A: เพราะว่า iPhone เป็นโทรศัพท์ที่เด่นมากๆ ในเรื่องระบบ Online, Social Networking, และ Push Notifications ตัวนึง

Q: Blackberry ก็เด่น ทำไมไม่นับรวมไปในหัวเรื่อง?
A: เพราะ Blackberry (BB) นั้น ผู้ให้บริการมือถือเค้ามี BB Service ให้อยู่แล้ว ไฮโซกว่าโปรที่ผมจะแนะนำเยอะครับ แต่ว่าราคาก็ไฮตาม

Q: โปร AIS ที่แนะนำนั้นเป็นแบบคิดตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งานนี่นา ใช้แบบนับตามเวลาไม่ดีกว่าเหรอ?
A: เนื่องจากระบบ Push Notifications ที่เพิ่มเข้ามาใน iPhone OS 3.0 ขึ้นไปนั้น ตัวเครื่องจะมีการต่อเนตตลอดเวลาเพื่อรอรับข้อมูลใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในเครื่อง ซึ่งถ้าใช้แพ็คเกจที่นับตามเวลาการใช้งานเช่น 100 บาทเล่นได้ 20 ชม. ผมบอกได้เลยว่าไม่เกิน 2 วันครับ หมดแน่นอน แถมเกินโปรไปอีกบาน กระเป๋าแห้งเอาง่ายๆ

Q: แล้ว AIS ถ้าใช้แบบคิดตามข้อมูลจะหมดช้าแค่ไหน?
A: ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละท่านครับ ถ้าไม่ได้ทำการเปิดเวปที่มีรูปภาพเยอะๆ หรืออัพโหลดรูปโชว์เพื่อนบ่อยๆ ใช้แบบ 100 บาทเล่นได้ 500MB เดือนเดียวก็ไม่หมดครับ อย่างตัวผมใช้อยู่เดือนละแค่ 200MB กว่าๆ เท่านั้น

Q: 1-2-Call ใช้แพ็คเกจนี้ได้มั๊ย
A: ใช้ได้ครับ ในเวป AIS มีเขียนอยู่ แต่ถ้าท่านไหนได้เปิดใช้งานจริงๆ ได้ ช่วยมายืนยันหน่อยนะครับ

ค่ายนี้เป็นค่ายเดียวในเวลานี้ที่มีแพ็คเกจให้บริการ Mobile Internet ที่คิดตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งานครับ

และตอนนี้แพ็คเกจ 3GSM นี้ได้ทำการปรับราคาใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 โดยราคาตามนี้ครับ

– 3G Package 100 MB 129 บาท 100 MB / เดือน ส่วนเกินคิด 2 บาท/MB
– 3G Package 500 MB 399 บาท 500 MB / เดือน ส่วนเกินคิด 2 บาท/MB
– 3G Package 1 GB 699 บาท 1 GB / เดือน ส่วนเกินคิด 2 บาท/MB
– 3G Package 5 GB 1,399 บาท 5 GB / เดือน ส่วนเกินคิด 2 บาท/MB
– 3G Package 10 GB 1,799 บาท 10 GB / เดือน ส่วนเกินคิด 2 บาท/MB

[อัพเดท 29/05/10] มีการปรับราคาแพ็คเกจอีกแล้วครับ ปรับรอบนี้ทำเอาผมงงหลังจากอ่านรายละเอียดไปได้แป๊บนึง แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด ก็จะสรุปได้ดังนี้ครับ

สำหรับท่านที่อยู่ กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี หัวหิน และนครราชสีมา

* จากภาพผมเข้าใจว่าเค้าพิมพ์ตกจังหวัดกรุงเทพไป เพราะในหมายเหตุเค้ายังเขียนถึงกรุงเทพอยู่

ผมขอเกริ่นก่อนด้วยความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับระบบ Billing ของผู้ให้บริการมือถือนะครับ ผมเข้าใจว่าเค้าไม่สามารถแยกได้ว่าเราใช้งาน 3G หรือ EDGE อยู่ แต่จากโปรนี้เค้ามีการแยกได้ ผมจึงไล่อ่านหมายเหตุดู ก็สรุปได้ว่า เค้าแยกจากพื้นที่ที่เราใช้งานแทน ฉะนั้นถ้าใช้งาน EDGE ในกทม. เชียงใหม่ ชลบุรี หัวหิน และนครราชสีมา ทางระบบก็จะคิดรวมในยอดการใช้งาน 3G อยู่ดี ท่าน MooMoo แจ้งเข้ามาว่าระบบคิดยอดเป็น EDGE ให้อย่างเดียว ไม่นับเป็น 3G ให้ครับ ฉะนั้นถ้าใครจะใช้แพ็คเกจที่คิดตามปริมาณการใช้งานกับ iPhone ก็แนะนำให้สมัครแพ็คเกจด้านล่างครับ ขอบคุณ MooMoo อีกครั้งครับ 🙂 (ถ้าผมผิดพลาดยังไง สามารถแจ้งเข้ามาให้แก้ไขได้นะครับ)

สรุปคือถ้าท่านอยู่ในจังหวัดข้างต้นผมก็ขอแนะนำให้ใช้แพ็คเกจ 150 บาท ก็พอครับ คุ้มแน่นอน

สำหรับท่านที่อยู่จังหวัดอื่น

ท่านที่อยู่จังหวัดนอกเหนือจากด้านบน คงต้องจ่ายค่า EDGE แพงขึ้นมาหน่อยนะครับ สำหรับท่านที่ใช้ iPhone อย่างน้อยๆ ผมแนะนำให้สมัครขั้นต่ำคือ 299 บาท เล่นได้ 200 MB ครับ เพราะแพ็คต่ำสุดที่เล่นได้ 30 MB ไม่พอกินแน่นอน แต่ถ้าท่านคิดว่าใช้งานเกิน หรือเป็นคนใช้งานเยอะ ก็คงต้องพิจารณาแพ็คเกจที่สูงขึ้นขึ้นมาครับ

อ้างอิง: http://www.ais.co.th/mobileinternet/ServicePackages.html

ปล. ได้ยินข่าวแว่วๆ ว่าท่านสามารถสมัครแพ็คเกจ Unlimited ได้ในราคา 650 บาท/เดือน จากปกติ 999 บาท/เดือน ถ้าท่านโทรไปคุย (ไม่ก็โวยวาย) กับทาง Call Center ครับ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบอัพโหลด ดาวน์โหลดรูปเป็นกิจวัตรครับ

——————————————————–

ส่วนตัวผมใช้แบบเก่าอยู่ที่จ่าย 100 บาท ใช้งานได้ 500 MB อยู่ครับ เป็นโปรรุ่นแรกเลย และใช้ไม่เคยเกินโปร เดือนนึงจะใช้อยู่ที่ประมาณ 200 MB เท่านั้น โดยเปิด Push Notifications ตลอด และมีเล่นทั้ง Facebook และ Twitter ครับ

ผม แนะนำว่าถ้าท่านไม่แน่ใจว่าใช้งานอยู่ในระดับใด แนะนำให้สมัครแบบ 500 MB 399 บาทก่อนครับ แล้วลองทดสอบใช้งานดู ถ้าพบอยู่ใช้อยู่ประมาณ 200 MB ก็ลดไปใช้แบบ 100 MB 129 บาทแทนครับ เนื่องจากเค้าคิดส่วนที่เกิน 2 บาท/MB ฉะนั้นถ้าสมัครแบบ 100 MB 129 บาท แต่ใช้งาน 200 MB ก็จะคิดเป็นเงิน 129 + ((200-100)*2) = 329 บาทครับ จะประหยัดไปได้ 70 บาทต่อเดือนเทียบกับ 500 MB 399 บาทครับ

อันนี้เป็นรูปที่เช็คก่อนโพสกระทู้นี้นะครับ ของผมเริ่มรอบบิลใหม่ทุกวันที่ 24 ของเดือนนะครับ เปิด Push ไว้ตลอด ภาพด้านล่างคือใช้งานตั้งแต่ 24 มิถุนายน – 7 กรกฎาคมครับ

ส่วน วิธีเปิดใช้โปรนี้อาจจะยุ่ง ยากนิด เพราะคนที่แนะนำผมมาอีกทีเค้าต้องโทรไป Call Center ตั้ง 2 รอบ คุยรอบละนานๆ กว่าเค้าจะยอมเปิด แต่ถ้าทำตามวิธีของผมด้านล่างนั้น รู้สึกว่าจะเปิดได้ทุกรายไป ถ้าใครเปิดไม่ได้ก็มาโพสบอกกันหน่อยนะครับ

ผมไม่แน่ใจว่าหลังมีการปรับราคาใหม่ดักกันแบบนี้แล้ว ถ้าบอกว่าใช้ iPhone โต้งๆ เลยเวลาขอสมัครแพ็คเกจนี้ เค้าจะยอมให้เปิดหรือไม่ ท่านใดที่กำลังจะเปิด และสนใจลองของก็ทดสอบมาบอกผมหน่อยนะครับ

แต่วิธีเปิดจะง่ายมาก เพียงแค่อ่านเทคนิคด้านล่างนี่ให้ขึ้นใจก่อน จากนั้นก็โทรไปที่ Call Center เค้า เพื่อขอเปิดครับ

ถาม: ใช้โทรศัพท์รุ่นไหนอยู่คะ?
ตอบ: HTC Diamond ครับ/ค่ะ (หรือจะอ้างรุ่นอื่นก็ได้ แต่รุ่นที่อ้างต้องรองรับ 3G ที่ความถี่ 900MHz นะครับ)

ถาม: อยู่ในพื้นที่ที่ให้บริการรึเปล่าคะ
ตอบ: ผม/ดิฉัน ทำงานอยู่แถว Central World ครับ/ค่ะ

ถาม: บลาๆๆๆๆ (ตรงนี้เค้าพูดอะไรมาก็รับฟังอย่างเดียวครับ ไม่ต้องรับรู้กับเค้า รับรู้เท่าที่ผมเขียนไว้นี่พอครับ)
ตอบ: ครับๆๆๆๆ/ค่ะๆๆๆๆ

ถาม: ถ้าอยู่นอกพื้นที่ให้บริการจะคิดค่าบริการเป็นนาทีนะคะ
ตอบ: ครับๆๆๆ/ค่ะๆๆๆ (ไม่ต้องสนใจครับ เรื่องนี้ไม่จริง ผมแนะนำโปรนี้ไปหลายคนแล้ว ก็คิดตามข้อมูลการใช้งานทุกพื้นที่ครับ)

สุดท้ายขอฝากลิงค์กระทู้ต่างๆ เกี่ยวกับแพ็คเกจนี้ที่ผมเคยโพสไว้ เพื่อจะได้ไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

Categories
iPhone TRUE

แพ็คเกจ GPRS/EDGE/3G ของ TRUE เพื่อการใช้งาน iPhone ให้ได้ 101%

[Update 21/05/10] จากเดิมค่ายนี้เคยมีแพ็คเกจ Unlimited ที่ถูกที่สุดคือ 599 บาทต่อเดือนอยู่ ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว และทำการแทนที่โดยแพ็คเกจที่คิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งาน โดยแพ็คเกจสำหรับเติมเงิน และรายเดือนจะเป็นแพ็คเกจเดียวกัน รายละเอียดตามด้านล่างนี้เลย

แพ็คเกจที่ผมแนะนำสำหรับการใช้คู่กับ iPhone คือแพ็คเกจ 399 บาท 500 MB ครับ เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่หากท่านเป็นคนใช้เยอะ หรือน้อยยังไง ก็ค่อยเปลี่ยนโปรในเดือนถัดมาก็ได้ครับ

อ้างอิง
http://www.truemove.com/th/banner-wifi-edge-gprs-pre.html
http://www.truemove.com/th/banner-wifi-edge-gprs-post.html
http://www.truemove.com/th/banner-wifi-edge-gprs-smart-phone.html

Categories
Find My iPhone iPhone

ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองด้วย Find My iPhone

เนื่องจากโพสนั้นมันตกไปหน้าอื่นแล้ว แต่ผมเดาว่าอาจมีหลายท่านที่ยังไม่ได้อ่าน แล้วเข้าเวปมาหาไม่เจอ ฉะนั้นผมจะรวมลิงค์ไว้ให้ตรงนี้นะครับ

ภาค 1
บทเสริมภาค 1

ภาค 2
บทเสริมภาค 2

ภาค 3
บทเสริมภาค 3

ภาค 4

ภาค 5 (ภาคจบ)

Categories
Find My iPhone iPhone

ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองด้วย Find My iPhone ภาค 5

ภาคจบแห่งมหากาพย์ตามล่า iPhone สุดขอบเมืองก็ได้ฤกษ์คลอดแล้วในที่สุดครับ ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขอเล่าอะไรสั้นๆ ก่อนนะครับ

ก่อนอื่นคงต้องขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจในการติดตาม iPhone ของผมนี้ ถึงแม้ Comment จะน้อย แต่จากการที่ได้พูดคุยกับหลายๆ ท่านในช่วงหลายเดือนมานี้พบว่ามีคนได้อ่านมากพอสมควร ที่ผมตลกที่สุดคือมีรุ่นน้องที่ผมรู้จักคนนึง รู้จักมาได้ซักพักแล้วล่ะ เจอกันบ่อยพอประมาณ ทุกทีที่เจอกันก็คุยเล่นกันตามภาษาไร้สาระอยู่เสมอ แต่มาวันนึงเค้าก็ถามผมโดยที่เหมือนจะไม่อยากถามว่า “พี่แบงค์ๆ เมื่อไหร่จะเขียนภาค 5 ต่อ ว่าจะไม่ถามแล้ว แต่อดไม่ได้” พอผมได้ยินคำถามก็ผมถึงกับหัวเราะปนดีใจว่าเค้าอ่านเรื่องราวของเราด้วยเหรอนี่ พอได้สอบถามเพิ่มก็ได้ความว่าเขาอ่านมานานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเรา เอิ๊กๆ เอาล่ะเริ่มกันเลยดีกว่า

หลังจากที่ผมได้รับโทรศัพท์จากทางร้าน B และได้ทราบถึงตัวคนที่ขโมย iPhone ไปนั้นว่าเป็นใคร ร้าน B ก็ถามผมต่อว่าพอจะรู้มั๊ยว่าเด็กคนที่ขโมยไปนั้นพักที่ไหน เขาอยากจะไปคุยกับเด็กเพื่อที่จะได้รู้ว่าควรทำอย่างกันต่อไปดี ผมก็บอกว่าผมรู้ เพราะว่าเคยไปที่พักของเด็กคนนั้นมาแล้ว ร้าน B จึงขอนัดพบผม เพื่อให้ผมนำทางไป โดยตอนแรกจะนัดเย็นวันที่โทรมาเลยด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากผมติดธุระ เลยขอนัดเป็นอีก 3 วันถัดมา เวลา 14.00 แทน

3 วันผ่านไป เป็นวันที่ 17 กันยายน 2552 ผมก็ได้ติดต่อกับร้าน B ว่าขอนัดพบที่ปั๊มน้ำมันแห่งนึงในบริเวณใกล้กับที่พักของเด็กที่ขโมยไป (บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นผมก็กลัวเหมือนกันว่านี่เป็นแผนการอะไรซักอย่างรึเปล่า ก็เลยพยายามนัดในที่ที่มีคนหน่อย) พอใกล้ถึงเวลานัด ทางร้าน B และญาติที่เป็นตำรวจ (ยาวเกิ๊น ขอเรียกสั้นๆ ว่า จ่าอ้วน ละกันนะครับ) ก็ไปถึงสถานที่นัดพบก่อนผมพอสมควร (ผมตั้งใจไปสาย เพื่อจะได้ไม่เป็นเป้านิ่ง ไม่รู้คิดมากไปป่าวตรู)

ผมไปถึงสายประมาณครึ่งชั่วโมงได้ พอไปถึงก็คุยกันอยู่แป๊บนึง ผมก็เริ่มเบาใจว่าคงไม่ใช่แผนการหลอกอะไรผม เพราะเค้ามีกระดาษที่พิมพ์รูปถ่ายมาด้วย ผมจึงอุ่นใจ และนำทางต่อไปยังที่พักของเด็กที่ขโมยไป

ขับจากปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดนัดพบไม่ถึง 3 นาที ก็ถึงจุดหมายของเรา ผมว่าถึงตรงนี้คงมีหลายคนเดาถูกแน่นอนว่าคือที่ไหน สถานที่จุดหมายที่เป็นที่พักของเด็กที่ขโมยไปนั้น ก็คือหอพักของเพื่อนของเพื่อนที่น้องชายผมไปนอนค้างเมื่อคืนที่ iPhone หายนั่นเอง!!

หลังจากจอดรถกันเรียบร้อย จ่าอ้วนก็ให้ผมโทรติดต่อกับคุณพี่สาวที่เป็นเจ้าของห้องทันที โดยยังไม่ให้ผมบอกอะไรมาก ให้บอกแค่ว่าอยากมาคุยด้วยเฉยๆ ไม่ต้องบอกว่ามีตำรวจมา พอนัดแนะกันเสร็จ ผมก็ทำการโทรศัพท์ไปหาคุณพี่สาวเจ้าของห้องทันที รอซักพักเธอก็รับสายขึ้นมาด้วยความงงว่า ใครโทรหาตูฟะ ผมจึงท้าวความอยู่ซักแป๊บ เธอก็จำได้ พร้อมกับน้ำเสียงเธอที่เปลี่ยนไปทันที ผมอธิบายว่าเนื่องจากมีหลักฐานเพิ่มเติม เลยอยากมาคุยขอข้อมูลเพิ่ม เธอก็อ้างว่าตอนนี้มานวดอยู่ข้างนอก เดี๋ยวไว้ตอนเย็นๆ จะกลับไปคุยด้วย (น้ำเสียงแบบไม่สะดวกใจเท่าไหร่) ผมก็ตกลงตามที่เธอว่า

หลังจากวางสาย ผม จ่าอ้วน และร้าน B จึงหาร้านอาหารแถวนั้นนั่งกินโค้กไปพลางๆ คุยกันพลาง ทำความรู้จักกันมากขึ้น หลังจากที่คุยกันไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีโทรศัพท์จากคุณพี่สาวเข้ามาหาผม ผมก็รีบรับสายทันที เธอก็ถามผมด้วยน้ำเสียงกลัวๆ ว่ามากันกี่คน ผมก็ตอบไปว่า 3 เธอก็ถามต่อว่ามีตำรวจมาด้วยรึเปล่า ผมก็บอกไปตามตรงว่ามี แต่ไม่ได้มาในนามตำรวจ เค้าแค่อยากมาคุยด้วยเฉยๆ แล้วก็ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน ผมก็บอกว่าอยู่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามนี่แล จะลงมาคุยกันที่นี่มั๊ย เธอก็บอกว่าให้ขึ้นไปที่ห้องดีกว่า เค้าไม่อยากให้ใครเห็นหรือได้ยินที่คุยกัน พร้อมกับอนุญาตให้ผมและคณะขึ้นไปที่ห้องได้แล้วก็วางสายไป

ผม จ่าอ้วน และร้าน B จึงรีบเช็คบิล แล้วก็ขึ้นไปหาที่ห้องทันที แต่ก่อนที่จะขึ้นไปได้ก็ติดระบบคีย์การ์ดอยู่ด้านล่างหอ ไม่สามารถเข้าไปในหอได้ สรุปพวกผม 3 คน (เป็นตำรวจด้วย 1 คนนะ) ต้องยืนรอจนมีคนออกจากหอ แล้วจึงรีบวิ่งไปจับประตูไม่ให้ปิด เพื่อที่จะแอบขึ้นไป (ฮา)

พอขึ้นไปถึงที่ห้องพัก ผมก็เคาะประตู ด้านในก็มีเสียงโวยวายเล็กน้อยก่อนที่ประตูจะเปิด พอเปิดเข้าไป เด็กผู้หญิงในห้องคนนึงก็ยกมือไหว้ร้าน B ทันที ผมก็งงว่ารู้จักกันหรืออย่างไร ปรากฎว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ก็คือคนเดียวกับที่นำเครื่อง iPhone ของน้องผมไปขายที่ร้าน B นั่นเอง

ในห้องขณะนั้นมีกันอยู่ 3 คน คือพี่สาวเจ้าของห้อง เด็กผู้หญิงคนนึง และก็น้องชายเจ้าของห้อง หรือเด็กคนที่ขโมยเครื่องไปนั่นเอง รวมกับผมอีก 3 คนเป็น 6 คน บรรยากาศในห้องขณะนั้นอึมครึมมากๆ พี่สาวเจ้าของห้องกำลังร้องไห้พร้อมกับดุด่าว่าน้องชายของตัวอยู่ด้วยความเสียใจ

ผม กับร้าน B ก็มอบหน้าที่ให้จ่าอ้วนเป็นคนคุย จ่าอ้วนก็พยายามสอนเด็กว่าสิ่งที่ทำนั้นมันไม่ดี ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (ต้องขออภ้ยส่วนตรงนี้ด้วย ผมจำได้แต่บริบทครับ จำไม่ได้ละเอียดว่าคุยอะไรบ้าง) โดยระหว่างที่สอนเด็ก พี่สาวก็พยายามจะตีน้องชาย พร้อมกับด่าอยู่เป็นระยะๆ จ่าอ้วนก็พยายามปลอดพี่สาวพร้อมกับสอนเด็กไปพร้อมๆ กัน นาทีนั้นผมสงสารผู้เป็นพี่สาวมาก โดยตั้งแต่เริ่มเข้าไปในห้องจนถึงตรงนี้ เด็กคนที่ขโมยไปนั้นยังไม่ยอมเปิดปากพูดเลยซักคำ จะมีปฏิกริยาก็แค่พยักหน้าอย่างเดียวเท่านั้น จ่าอ้วนจึงได้ถามถึงว่าที่ขโมยไปขายเนี่ย เอาเงินไปทำอะไร คำตอบที่ได้ก็คือเอาไปกินไปซื้อของให้แฟน (เด็กผู้หญิงในห้อง) หมดแล้ว ผมจึงถามเด็กผู้หญิงคนนั้นว่ารู้รึเปล่าว่าโทรศัพท์ที่เอาไปขายนั้นเป็นเครื่องที่ขโมยมา เด็กผู้หญิงก็บอกว่าไม่รู้ (เชื่อได้รึเปล่าก็ไม่รู้)

พอพี่สาวเริ่มเย็นลง พี่สาวก็เล่าว่าเค้าสงสัยมมาได้ซักพักแล้วว่าน้องเค้าเป็นคนขโมยไป เพราะหลังจากวันที่เกิดเรื่องนั้นไม่กี่วัน เค้าก็พบ iPhone case สีส้มอยู่ในห้องเค้า เค้าก็ถามน้องชายว่าไปได้มายังไง น้องเค้าก็บอกเค้าว่าเพื่อนมาลืมเอาไว้ และพอเล่าจบคุณพี่สาวก็ขอร้องผม และร้าน B ว่าอย่าเอาเรื่องน้องชายเค้าเลย เห็นแก่อนาคตของน้องเค้าด้วย ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวจะชดใช้ให้เอง ด้วยความสงสาร + ไม่อยากให้เรื่องมันยาว ผมและร้าน B จึงตกลงกันตามนั้น แต่ใจผมก็อยากจะให้โอกาสเด็กจริงๆ นะครับตอนนั้น ด้วยความเชื่อที่ว่า “ทุกคนเป็นคนดีเท่ากัน เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาและความเข้าใจที่ต่างกัน” หลังจากตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันกลับ โดยระหว่างขับรถกลับ คุณพี่สาวก็โทรมาขอร้องผมอีกรอบเรื่องน้องชายของเค้า ผมก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ โดยมีเงื่อนไขที่ว่า อย่าให้ผมรู้ว่าน้องคุณทำเรื่องแบบนี้อีก…

พอกลับถึงบ้าน ผมก็นึกถึงคุณปุ๊กได้ ไม่รู้ว่าเธอได้เงินคืนจากร้าน A รึยัง ผมจึงโทรไปสอบถาม และเล่าให้ฟังในสิ่งที่ผมผ่านมาวันนี้ เธอก็บอกว่าเธอได้รับเงินจากร้าน A เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ก็ทำเอาผมโล่งใจ และก็ทำให้เรื่องนี้จบลงแบบ Happy Ending ครับ ไม่มีใครต้องสูญเสียทรัพย์สินอะไร จะมีก็คงมีแต่ความรู้สึกของพี่สาวที่เสียไปกับน้องชายของเธอเอง

จบแล้วครับ สำหรับตามล่า iPhone สุดขอบเมือง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ภาคนี้อาจจะสั้นๆ ห้วนๆ เล็กน้อยนะครับ หวังว่าท่านผู้อ่านคงไม่ว่ากัน แล้วไว้ผมจะพยายามเขียนบทความดีๆ เป็นความรู้ใหม่ๆ มาฝากท่านผู้อ่านทุกคนนะครับ ติดตามอัพเดทได้ทาง Twitter ของผม @Bankja เช่นเคยครับ (ทวีตแบบมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง)

ทิ้งท้ายอีกนิดว่าในตอนแรกเรื่องนี้คงไม่ได้มาเล่าบอกต่อๆ กัน ถ้ามันไม่ใช่เพราะการได้เครื่องคืนด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย และผมอยากเสริมว่ากรณีของผมนั้นถือว่าเป็นโชคมากกว่าฝีมือนะครับ ฉะนั้นการดูแลรักษาเครื่องโทรศัพท์ของท่านไว้ให้ดี อย่าให้หายเป็นสิ่งสำคัญ และพึ่งพาได้มากที่สุดครับ

@Bankja

Categories
iPad iPhone

ขายบัตร iTunes Gift Card พร้อมวิธีการใช้งาน

มั่นใจได้กับบริการ iTunes Gift Card ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในประเทศไทย

คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดวิธีการสั่งซื้อเพิ่มเติม

ก่อนที่จะเติมเงินเข้า iTunes Account นั้น ท่านต้องมี 3 อย่างก่อนดังนี้

  1. โปรแกรม iTunes ในคอมของท่าน ถ้าไม่มีก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่เวปของ Apple เลยครับ
  2. iTunes Account สำหรับกรณีนี้เราแนะนำให้เป็นของ US นะครับ วิธีการสมัคร
  3. iTunes Gift Card Code จะเป็นคล้ายๆ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ครับ แค่ขูดแล้วเอา Code มาใส่ก็พอ สามารถสั่งซื้อที่ได้ http://bankja.net/itunes ครับ

หน้าตาตัวอย่าง Gift Card ครับ รหัสที่จะใช้เติมให้ขูดตรงที่ศรชี้

เมื่อมีครบแล้วก็เริ่มขั้นตอนได้ตามด้านล่างเลยครับ (รูปทุกรูปสามารถคลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่ได้)

1. Login เข้าใน US iTunes Store ให้เรียบร้อยก่อน

2. กดเลือก Redeem โดยจะสามารถกดได้ที่บริเวณด้านขวาของหน้า หรือ เอาเมาส์เลื่อนไปที่มุมขวาบนที่เป็น Account ของเรา ก็จะพบลูกศรสามเหลี่ยมสีขาวๆ โผล่ขึ้นมา ให้คลิกที่ลูกศร แล้วจะมีเมนู Redeem โผล่ขึ้นมาให้เลือก

3. เมื่อเข้าไปในส่วนของ Redeem แล้ว ก็จะพบกับช่องให้ใส่ Redeem Code ตามภาพด้านล่าง ให้เราใส่ Code ที่ได้มาลงไปแล้วคลิกปุ่ม Redeem เลย (ตรงนี้ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึงว่าการซื้อ iTunes Gift Card นั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นการ์ดแล้วมาขูดเองก็ได้นะครับ อาจจะเอามาแค่ Code ที่ถูกต้อง แล้วเอามาใส่ก็ได้เหมือนกัน)

4. เมื่อคลิกที่ปุ่ม Redeem แล้ว iTunes ก็จะเด้งขึ้นมาถาม Username กับ Password ของท่านเพื่อยืนยันการเติมเงินครับ ก็ให้กรอกให้เรียบร้อย แล้วคลิกที่ปุ่ม Redeem ครับ

5. เมื่อเติมเงินสำเร็จ iTunes ก็จะแจ้งให้เราทราบว่า “You have successfully redeemed your iTunes Card” พร้อมทั้งบอกจำนวนเงินที่เติมเข้าไปอยู่ทางด้านล่าง สำหรับภาพตัวอย่างด้านล่างคือเติมเข้าไป $10 ครับ พอเติมเงินสำเร็จ จำนวนเงินถูกต้อง ก็ให้คลิกที่ปุ่ม Shop เพื่อไปเลือกซื้อ App / เพลง / หนัง ที่ต้องการได้เลยครับ

6. ท่านจะสามารถสังเกตยอดเงินคงเหลือได้ที่บริเวณด้านขวาบน ข้างๆ Email ของท่านครับ

สำหรับท่านที่ต้องการสั่งซื้อ iTunes Gift Card สามารถสั่งกับผมได้นะครับ รายละเอียดตามไปที่หน้า http://bankja.net/itunes ได้เลยครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ 🙂

@Bankja